พลังงาน

ทำไมน้ำมันถึงจะหมดไป

เมื่อเราคิดถึง “น้ำมัน” หลายๆ ท่านก็คงจะคิดถึงพลังงานเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์และการเดินทางต่างๆ อย่างแน่นอน ซึ่งน้ำมันดิบนั้นเป็นสิ่งที่มีจำกัด เนื่องด้วยการเกิดของน้ำมันดิบนั้นใช้เวลายาวนานหลายล้านปีเลยหล่ะครับ วันนี้เราจะพาทุกๆ ท่านไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “ทำไมน้ำมันถึงจะหมดไป” กันครับ คิดว่าจะเป็นข้อมูลความรู้ที่ดี จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น…เราไปชมกันเล้ยย!!!

ปัจจุบันราคาน้ำมันที่สูงขึ้น รวมทั้งความต้องการพลังงานและปริมาณการ ผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ต่างเป็นปัจจัยที่ทำให้นักวิเคราะห์หลายคน พากันกังกล ว่าปริมาณน้ำมันสำรองของโลกจะเริ่มลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า

น้ำมันดิบเกิดจากอะไร?

น้ำมันดิบ คือ ปิโตรเลียมที่อยู่ในรูปของเหลวสีดำหรือสีน้ำตาล กลิ่นคล้ายน้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูป มีองค์ประกอบส่วนใหญ่คือสารประกอบไฮโดรคาร์บอนชนิดระเหยง่าย สามารถแบ่งเป็น 3 ชนิด ตามคุณสมบัติและชนิดของไฮโดรคาร์บอนที่ประกอบอยู่  ซึ่งน้ำมันดิบเกิดจากการทับถมกันของซากพืชซากสัตว์ใต้ทะเลลึก โดยเฉพาะแพลงก์ตอน สัตว์ และสาหร่ายที่เกิดการเน่าเปื่อย ผุพัง และย่อยสลายกลายเป็นอินทรียสารที่สะสมรวมตัวกับตะกอนต่าง ๆ จนเกิดเป็นชั้นตะกอนหนาแน่น ซึ่งจมตัวลงจากแรงกดทับของชั้นการสะสมต่าง ๆ และการเปลี่ยนแปลงของแผ่นเปลือกโลกภายใต้ความร้อนและความดันอันมหาศาลที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ด้วยเวลาหลายล้านปีครับ

ข้อมูลที่มีการกล่าวถึงเรื่อง น้ำมันกำลังจะหมด

ความคิดที่ว่าทรัพยากรน้ำมันมีจำนวนจำกัดนั้นเกิดขึ้นโดยนักธรณีวิทยาอเมริกัน M. King Hubbert ผู้ซึ่งเสนอแนวคิดเรื่อง Peak Oil นี้เมื่อกว่า 50 ปีที่แล้วว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันโลกจะเพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุดก่อนที่จะเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากปริมาณน้ำมันดิบสำรองลดลงทั่วโลก จากแนวคิดของคุณ Hubbert ทำให้นักวิเคราะห์หลายคนรวมทั้งคุณ David Strahan นักหนังสือพิมพ์และหนึ่ง ในคณะกรรมการของศูนย์วิเคราะห์เรื่องการลดลงของปริมาณน้ำมันโลกในกรุงลอนดอน เชื่อว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า คือภายในปี ค.ศ.2020 ปริมาณการผลิตน้ำมัน โลกจะเพิ่มถึงจุดสูงสุดก่อนที่จะเริ่มลดลงราว 3-4% แต่ในปัจจุบันสามารถขุดหาแหล่งน้ำมันได้มากขึ้นและมีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ คุณ Michael Economides ยังบอกอีกว่า แม้ในอนาคตแหล่งน้ำมันสำรองจะถูกขุดมาใช้จนหมด แต่ความต้องการพลังงาน ความจำเป็นทางเศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์จะเป็นแรงผลักดัน ให้มีการพัฒนาพลังงานทางเลือกอื่นๆ ต่อไป จึงอาจหมดไปในอนาคตครับ

3 พลังงานทดแทนที่น่าสนใจ แห่งโลกอนาคต

●พลังงานน้ำ

เป็นพลังงานทดแทนจากธรรมชาติที่สร้างได้จากอ่างเก็บน้ำหรือเขื่อน โดยอาศัยหลักการเคลื่อนที่ของน้ำที่จะเคลื่อนที่จากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ โดยในขั้นตอนแรกจะเป็นการกักเก็บน้ำไว้ในอ่างเก็บน้ำหรือเขื่อนเพื่อสะสมพลังงานศักย์ และเมื่อได้ปริมาณน้ำตามที่ต้องการแล้ว จึงทำการเปิดประตูน้ำให้น้ำไหลออกมาเพื่อหมุนใบพัดของกังหันน้ำและเครื่องปั่นไฟฟ้าหรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าพลังน้ำด้วยพลังงานจลน์ และได้มาซึ่งพลังงานไฟฟ้าในท้ายที่สุด สำหรับประเทศไทยแล้ว พลังงานไฟฟ้าที่ได้จากน้ำ (Hydroelectricity) ถือเป็นพลังงานหมุนเวียนที่ผลิตได้มากกว่าพลังงานรูปแบบอื่น ๆ

●พลังงานแสงอาทิตย์

พลังงานแสงอาทิตย์เป็นทางเลือกพลังงานสะอาดที่ใช้ประโยชน์จากแหล่งพลังงานธรรมชาติอย่างแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีมากที่สุดของโลกอย่างหนึ่งเพื่อนำมาแปรรูปเป็นพลังงานด้วยระบบโซลาร์เซลล์ที่จะทำหน้าที่ในการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งมีตั้งแต่ระบบโซลาร์รูฟที่นิยมใช้ในระดับครัวเรือนไปจนถึงระบบโซลาร์ฟาร์มหรือโรงผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ นอกจากพลังงานไฟฟ้าแล้ว พลังงานแสงอาทิตย์ยังสามารถนำไปแปรรูปเป็นพลังงานความร้อนได้อีกด้วย

●พลังงานนิวเคลียร์ หรือ พลังงานปรมาณู (nuclear power, nuclear energy)

เป็นพลังงานรูปแบบหนึ่งที่ได้จากการคายความร้อนในปฏิกิริยานิวเคลียร์[1] เพื่อประโยชน์ในการสร้างความร้อนและผลิตไฟฟ้า นิวเคลียร์ เป็นคำคุณศัพท์ของคำว่า นิวเคลียส ซึ่งเป็นแก่นกลางของอะตอมธาตุ ซึ่งประกอบด้วยอนุภาคโปรตอน และนิวตรอน ซึ่งยึดกันได้ด้วยแรงของอนุภาคไพออน

และนี้ก็คือข้อมูลที่สนับสนุนว่า “ทำไมน้ำมันถึงจะหมดไป”พร้อมกับแนะนำพลังงานทดแทนให้กับทุกๆ ท่านทราบกันครับ คิดว่าเป็นอะไรที่น่าศึกษากันต่อไปครับ